คนทำงาน ที่ได้รับอันตรายจากการทำงาน ส่วนใหญ่มักขาดความเอาใจใส่ ในเรื่องของสุขภาพความปลอดภัยทั้งในส่วนตัวคนงานเอง และสถานประกอบการที่ ไม่มีนโยบายเรื่องสุขภาพความปลอดภัย รวมถึงการขาดประสิทธิภาพในการตรวจสอบให้ความรู้ บังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานภาครัฐที่มีหน้าที่ ดังนั้นเราจึงจำเป็นที่จะต้องเข้าใจ และปฏิบัติตามหลักความปลอดภัยโดยเคร่งครัด แล้วเราจะปลอดภัยจากอันตรายหรืออุบัติเหตุต่าง ๆ
สาเหตุโดยทั่วไปของอุบัติเหตุ อาจแบ่งได้ดังนี้
1.ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
มักเกิดกับบุคคลที่เข้าทำงานใหม่ ๆ หรือเข้าทำงานกับเครื่องมือ เครื่องจักรใหม่ โดยที่ ไม่ได้รับคำอธิบายถึงการปฏิบัติและการทำงานของเครื่องมือเครื่องจักรโดยละเอียด จึงมักจะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อย ๆ
-
การสอนเกี่ยวกับความปลอดภัยยังไม่ดีพอ
-
กฎความปลอดภัยไม่มีผลบังคับใช้
-
ไม่ได้วางแผนงานความปลอดภัยไว้เป็นส่วนหนึ่งของงาน
-
จุดอันตรายต่าง ๆ ไม่ได้ทำการแก้ไข
-
อุปกรณ์ความปลอดภัยไม่ได้จัดให้
-
ขาดความรู้หรือไม่ได้ตระหนักในเรื่องความปลอดภัย
2. ความประมาท
-
เกิดจากมีความเชื่อมั่นมากเกินไปเนื่องจากทำงานมานาน
-
การละเลยไม่เอาใจใส่หรือมีทัศนคติผิด ๆในเรื่องความปลอดภัย
-
เครื่องป้องกันอันตรายหรือเครื่องกั้นจัดไว้ให้ แต่ไม่ใช้หรือถอดออก
-
ใช้เครื่องมือเครื่องใช้ไม่ถูกต้องกับลักษณะของงานที่ทำ ถึงแม้ว่าจะมีเครื่องมือที่ถูกต้องให้เลือกใช้ได้เหมาะสมก็ตาม
-
ยกของด้วยวิธีผิด ๆ จนน่าจะเกิดอันตราย
-
อิริยาบทในการเคลื่อนไหวน่าจะเกิดอันตราย เช่น การเดิน การวิ่ง การกระโดด การก้าว การปีนป่าย
-
การหยอกล้อ หรือล้อเล่นในระหว่างการทำงาน
3. สภาพร่างกายของบุคคล
-
อ่อนเพลีย เนื่องจากไม่สบายเป็นไข้แล้วเข้าทำงานหนัก
-
หูหนวก
-
สายตาไม่ดี
-
โรคหัวใจ
-
สภาพร่างกายไม่เหมาะกับงาน
4. สภาพจิตใจของบุคคล
-
ขาดความความตั้งใจในการทำงาน
-
ขาดความสามารถในการควบคุมอารมณ์ในขณะทำงาน
-
ตื่นเต้นง่าย ขวัญอ่อน ตกใจง่าย
5. อุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องจักร มีข้อบกพร่องอาจเนื่องจากสาเหตุ เช่น
-
ใช้เครื่องมือไม่ถูกขนาด
-
ใช้เครื่องมือที่สึกหรอชำรุด ทื่อ หรือหัก
-
ใช้เครื่องมือที่ปราศจากด้ามหรือที่จับที่เหมาะสม
-
ไม่ใช้เครื่องป้องกันอันตราย
-
จับตั้งงานไม่ได้ขนาด และไม่มั่นคง
-
ละเลยต่อการบำรุงรักษา เช่น น้ำมันหล่อลื่นไม่เพียงพอ
6. สภาพของบริเวณปฏิบัติงานที่ไม่ปลอดภัย เช่น
-
แสงสว่างไม่เพียงพอ
-
เสียงดังมากเกินไป
-
การระบายอากาศที่ไม่เหมาะสม
-
ความสกปรก
-
บริเวณที่คับแคบ
-
มีสารเคมี และเชื้อเพลิง
-
พื้นที่ลื่น เนื่องจากคราบน้ำมัน
-
หลุมและสิ่งกีดขวางทางเดิน
-
การสูญเสียเนื่องจากการเกิดอุบัติเหตุ
การที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นแต่ละครั้งย่อมหมายถึงการสูญเสียเกิดขึ้นทุกครั้ง ได้แก่
1.การสูญเสียโดยตรง
-
ได้รับบาดเจ็บ พิการ หรือตาย และอาจทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายด้วย
-
ทำให้อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร ตลอดจนทรัพย์สินอื่น ๆชำรุดเสียหาย
-
การ สูญเสียที่คิดเป็นเงินที่นายจ้างหรือรัฐบาลต้องจ่ายโดยตรง ให้แก่ผู้ที่ได้รับอุบัติเหตุจากการทำงาน เช่น ค่ารักษาพยาบาล เงินทดแทนที่ต้องจ่ายโดยรัฐหรือโรงงาน ค่าทำขวัญ
2. การสูญเสียโดยทางอ้อม
คือ การสูญเสียซึ่งมักจะคิดไม่ถึง หรือไม่ค่อยได้คิดว่าเป็นการสูญเสียเป็นลักษณะการสูญเสียที่แฝงอยู่ไม่ปรากฏเด่นชัด เช่น
-
สูญเสียแรงงานของลูกจ้างที่ได้รับบาดเจ็บ จะต้องใช้เวลาพักฟื้นจนกว่าจะหาย
-
สูญ เสียเวลาของลูกจ้างคนอื่น ๆ ซึ่งหยุดทำงานในขณะเกิดอุบัติเหตุด้วยเหตุผลต่อไปนี้ ความอยากรู้อยากเห็นเข้าไปมุงดูซักถามเหตุการณ์ด้วยความเห็นใจลูกจ้างผู้บาด เจ็บ ตื่นเต้น หรือช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในการทำปฐมพยาบาลหรือนำส่งโรงพยาบาล
-
สูญเสียเวลาของแพทย์หรือพยาบาล หรือเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ในการปฐมพยาบาล
-
ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเครื่องจักรกล เครื่องมือ
-
ทำให้ปริมาณผลผลิตขาดหายไป ผลิตให้ผู้ใช้ไม่ทันเวลา เงินรางวัล โบนัสประจำปีลดน้อยลงไป
-
สูญเสียผลกำไรส่วนหนึ่งไป เนื่องจากลูกจ้างบาดเจ็บและเครื่องจักรหยุดทำงาน
-
ทำให้คนงานขวัญเสีย เกิดความกลัว ประสิทธิภาพการทำงานลดลง
-
ครอบครัวต้องสูญเสียกำลังหลัก กำลังใจ สูญเสียรายได้
3.อันตรายจากสิ่งแวดล้อมในการทำงาน
การ ทำงานในชีวิตประจำวันของคนเรานั้น จะต้องสัมผัสสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกันไป ทำให้แต่ละคนได้รับพิษภัย และการเกิดโรคอันเนื่องมาจากการทำงานแตกต่างกันไปตามสถานะภาพ ในหน้าที่การงานของแต่ละคน อันตรายจากสิ่งแวดล้อมในการทำงานพิจารณาได้ดังนี้
-
เสียงดัง คนทำงานโดยทั่วไปประมาณวันละ 8 ชั่วโมง จะรับระดับเสียงได้ไม่เกิน 90 เดซิเบล ถ้าดังเกินไปจะทำให้หูตึงและอาจหูหนวกได้
-
แสงสว่าง แสงสว่างมากเกินไป อาทิ เช่น จากเตาหลอม ไฟเชื่อม ทำให้ตาฝ้า ตามัว และอาจบอดได้
-
ความ ร้อน ถ้าไม่มีการป้องกันความร้อนที่ดีแล้วอาจได้รับอันตรายจากความร้อน เช่น ทำให้อ่อนเพลียไม่มีแรง หน้ามืดบ่อย ๆ และอาจเป็นลมสลบได้
-
ความกดดัน อากาศในบริเวณปฏิบัติงานที่มีความกดดันสูงกว่าปกติ จะทำให้เกิดอาการปวดหู อาจทำให้เยื่อหูฉีกขาดและทำให้หูหนวกในที่สุด
-
ความ สั่นสะเทือน อาจทำให้ เนื้อเยื่ออ่อนของมือ เกิดอาการอักเสบลุกลามไปถึงกระดูกข้อมือ หรือทำให้กล้ามเนื้อมือเป็นอัมพาตหรือทำให้อวัยะบางส่วนลีบได้
-
สารเคมี ฝุ่น ไอ ควัน ละอองแก๊สของสารพิษสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ 3 ทางคือ
-
โดยการหายใจ สารเคมีเมื่อเข้าไปถึงปอดจะถูกดูดซึมอย่างเร็วทำให้เกิดโรคปอดได้
-
โดยการดูดซึมทางผิวหนัง ทำให้ผิวหนังเป็นแผล เกิดอาการเป็นพิษต่อระบบหมุนเวียนโลหิตของร่างกาย
-
โดยการกินเข้าไป
การปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับวัสดุบางชนิดอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ วัสดุเหล่านี้ได้แก่
-
วัสดุที่มีขอบแหลมคม
-
วัสดุที่วางไว้ในที่ที่ไม่เหมาะสม เช่น ไม่มีสิ่งจับยึด แขวนไว้เหนือศรีษะโดยไม่มีเครื่องป้องกันอันตราย หรือวางไว้เกะกะบนพื้น
-
วัสดุที่ติดไฟได้ง่าย เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง ขยะมูลฝอย
-
สารเคมีที่เป็นพิษ
-
วัสดุที่มีอุณหภูมิสูง เช่น โลหะที่เผาจนร้อนจัด น้ำร้อน
-
ไอน้ำหรืออากาศที่มีความดันสูง เช่น หม้อไอน้ำ เครื่องปั้มลม
-
สื่อไฟฟ้าที่ปราศจากฉนวนหุ้ม
-
บันไดที่หัก หรือนั่งร้านที่ไม่แข็งแรงนั่นเอง
หลักความปลอดภัยในการทำงานโดยทั่วไป
เรื่องสุขภาพความปลอดภัยไม่ใช่เรื่องของใคร คนใดคนหนึ่ง เป็นเรื่องที่ ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ หรือสถานประกอบการ และลูกจ้าง ต้องตระหนักและให้ความสำคัญต่อเรื่องสุขภาพความปลอดภัย ปฎิบัติตามกฎหมายความปลอดภัย วางนโยบาย เรื่องนี้อย่างจริงจังเคร่งครัด และร่วมมือกับผู้ปฎิบัติงานช่วยกัน ดูแลตรวจสอบอย่างจริงจัง และต้องคำนึงถึงเรื่องดังต่อไปนี้
-
จะต้องยอมรับ และปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยของโรงงานโดยเคร่งครัด
-
ใช้เครื่องมือให้ถูกวิธี ถูกขนาด และถูกกับงาน
-
แต่งกายให้ถูกต้องตามระเบียบของโรงงาน และใช้เครื่องป้องกันอันตรายทุกครั้งที่ปฏิบัติงานที่กำหนดให้ใช้เครื่องป้องกัน
-
หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ เครื่องมือหรือเครื่องจักรที่ชำรุดเสียหาย หรืออยู่ในสภาพที่ไม่เหมาะสมต่อการใช้งาน
-
เก็บรักษาอุปกรณ์ และเครื่องมือที่ใช้ในการทำงานให้เป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่เสมอ เมื่อนำไปใช้งานต้องเก็บไว้ให้ถูกจุดทุกครั้ง
-
รักษาความสะอาดทางเดินในโรงงาน และติดป้ายแสดงให้ชัดเจนที่บริเวณปฏิบัติงานที่มีอันตราย
-
รู้จักตำแหน่ง หรือที่ติดตั้งเครื่องดับเพลิงตลอดจนวิธีการใช้
-
ปฏิบัติตามคำเตือนหรือเครื่องหมายแสดงอันตรายใด ๆ ภายในโรงงาน
-
อย่าวิ่งหรือหยอกล้อกันในโรงงาน
-
ในกรณีเกิดอุบัติเหตุให้รีบช่วยเหลือทันที
เครื่องป้องกันอันตรายส่วนบุคคล
เครื่องป้องกันอันตรายส่วนบุคคล หมายถึงสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่สวมใส่ลงบนอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย หรือหลาย ๆ ส่วนรวมกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันอันตรายให้แก่อวัยวะส่วนนั้น ๆ ไม่ให้ต้องประสบกับอันตราย คือ เป็นการป้องกันอันตรายจากสภาพแวดล้อมในการทำงาน
อ้างอิง : http://www.shawpat.or.th/